ดังโบราณได้ว่าไว้ "มีลูกหนึ่งคน จนไปสิบปี" ซึ่งหมายความว่า คุณต้องใช้ระยะเวลาและใช้เงินจำนวนไม่น้อยในการเลี้ยงดูลูกตั้งแต่อยู่ในท้อง เพราะคุณต้องเริ่มจ่ายเงินเพื่อลูกตลอดเวลา ดังนั้นจึงอย่างให้คุณที่กำลังคิดอยากมีบุตรไว้เชยชม คงต้องฉุกคิดให้นานหน่อย เพราะไม่เพียงแต่คุณต้องเตรียมตัวเตรียมใจและเตรียมความพร้อมร่างกายเพื่อให้ได้ลูกที่มีความสมบูรณ์ทั้งกายและใจ พร้อมทั้งสติปัญญาที่ครบสมบูรณ์แล้ว คุณจะต้องมีการวางแผนเรื่องการเลี้ยงดูลูกที่จะเกิดมาในอนาคตด้วย



นอกจากนี้คุณและสามียังต้องควรฉุกคิดถึงโรคภัยไข้เจ็บต่างๆอาทิ เช่น หากคุณมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคลมชัก โรคหืด โรคไต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนมีครรภ์เสมอ เพราะอาจต้องเปลี่ยนยาซึ่งอาจมีผลต่อทารกในครรภ์ได้ หรือทำให้ตั้งครรภ์ได้ยากขึ้นไปอีก ดังนั้นคุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะถ้าได้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดก็มีโอกาศที่จะมีลูกสมบูรณ์แข็งแรงมากยิ่งขึ้น

หากคุณไม่เคยมีภูมิต้านทานโรคหัดเยอรมันและติดเชื้อระหว่างการตั้งครรภ์โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก นับว่าเป็นเรื่องที่อันตรายที่สุด เพราะเป็นช่วงที่ทารกกำลังสร้างอวัยวะภายในที่ซับซ้อน จะทำให้ลูกมีโอกาศเกิดความพิการได้ เช่น หูหนวด ตาบอด สมองเล็ก และหัวใจรั่ว

ถ้าเป็นไปได้ควรให้แพทย์ตรวจเลือดหาภูมิคุ้มกันหัดเยอรมันก่อนการตั้งครรภ์เสมอ ถ้ายังไม่มีภูมิคุ้มกัน แพทย์จะฉีดวัคซีนและควรคุมกำเนิดหลังฉีดวัคซีนนี้อย่างน้อย 3 เดือน (ถ้าคุณตั้งครรภ์แล้ว ห้ามฉีดวัคซีนนี้ตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์)

กรณีคุณมีญาติใกล้ชิดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเคยมีประวัติเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทางกรรพันธุ์ เช่น ฮีโมฟีเลีย (Haemophilia) คือ โรคที่เลือดไหลไม่หยุด ซึ่งเกิดจากการขาดสารที่ช่วยในการสร้างลิ่มเลือดในตับ ดังนั้น เมื่อมีบาดแผลเกิดขึ้นที่ใดก็ตามเลือดจะไหลออกมาไม่หยุด หรือโรคทาลัสซีเมีย (Thalassemia) คือโรคโลหิตหรือโรคซีดคุณต้องแจ้งอาการตางๆเหล่านี้ให้แพทย์ทราบทันที เพราะโอกาศที่ลูกคุณจะเป็นโรคเหล่านี้สูงกว่าคนปกติ ฉะนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนการตั้งครรภ์และอาจต้องพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุกรรมโดยเฉพาะ เพื่อตรวจสอบว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้มากน้อยเพียงใด

หากรู้สึกว่าอาจจะตั้งครรภ์ควรงดใช้ยาทุกชนิด ถ้าจำเป็นต้องใช้ยาเพราะเป็นโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกใช้ยาที่ไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์

หากเคยใช้หรือกำลังใช้ยาคุมกำเนิดคุณควรหยุดใช้ยาคุมกำเนิดทันทีและให้เวลาธรรมชาติของร่างกายคุณกลับคืนสู่สภาพปกติ โดยควรรอให้มีประจำเดือนอย่างน้อย 3 วันก่อนการตั้งครรภ์โดยให้สามีคุณใช้ภุงยางอนามัยระหว่างนั้น

หากคิดจะตั้งครรภ์ คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบถ้วนและกินผักสด ผลไม้สดให้ติดเป็นนิสัยเพื่อจะได้มีโอกาสตั้งครรภ์และมีบุตรที่แข็งแรง สุขภาพดี

คิดให้ดี.....ก่อนมีลูก

ดังโบราณได้ว่าไว้ "มีลูกหนึ่งคน จนไปสิบปี" ซึ่งหมายความว่า คุณต้องใช้ระยะเวลาและใช้เงินจำนวนไม่น้อยในการเลี้ยงดูลูกตั้งแต่อยู่ในท้อง เพราะคุณต้องเริ่มจ่ายเงินเพื่อลูกตลอดเวลา ดังนั้นจึงอย่างให้คุณที่กำลังคิดอยากมีบุตรไว้เชยชม คงต้องฉุกคิดให้นานหน่อย เพราะไม่เพียงแต่คุณต้องเตรียมตัวเตรียมใจและเตรียมความพร้อมร่างกายเพื่อให้ได้ลูกที่มีความสมบูรณ์ทั้งกายและใจ พร้อมทั้งสติปัญญาที่ครบสมบูรณ์แล้ว คุณจะต้องมีการวางแผนเรื่องการเลี้ยงดูลูกที่จะเกิดมาในอนาคตด้วย



นอกจากนี้คุณและสามียังต้องควรฉุกคิดถึงโรคภัยไข้เจ็บต่างๆอาทิ เช่น หากคุณมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคลมชัก โรคหืด โรคไต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนมีครรภ์เสมอ เพราะอาจต้องเปลี่ยนยาซึ่งอาจมีผลต่อทารกในครรภ์ได้ หรือทำให้ตั้งครรภ์ได้ยากขึ้นไปอีก ดังนั้นคุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะถ้าได้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดก็มีโอกาศที่จะมีลูกสมบูรณ์แข็งแรงมากยิ่งขึ้น

หากคุณไม่เคยมีภูมิต้านทานโรคหัดเยอรมันและติดเชื้อระหว่างการตั้งครรภ์โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก นับว่าเป็นเรื่องที่อันตรายที่สุด เพราะเป็นช่วงที่ทารกกำลังสร้างอวัยวะภายในที่ซับซ้อน จะทำให้ลูกมีโอกาศเกิดความพิการได้ เช่น หูหนวด ตาบอด สมองเล็ก และหัวใจรั่ว

ถ้าเป็นไปได้ควรให้แพทย์ตรวจเลือดหาภูมิคุ้มกันหัดเยอรมันก่อนการตั้งครรภ์เสมอ ถ้ายังไม่มีภูมิคุ้มกัน แพทย์จะฉีดวัคซีนและควรคุมกำเนิดหลังฉีดวัคซีนนี้อย่างน้อย 3 เดือน (ถ้าคุณตั้งครรภ์แล้ว ห้ามฉีดวัคซีนนี้ตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์)

กรณีคุณมีญาติใกล้ชิดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเคยมีประวัติเป็นโรคที่สามารถถ่ายทอดทางกรรพันธุ์ เช่น ฮีโมฟีเลีย (Haemophilia) คือ โรคที่เลือดไหลไม่หยุด ซึ่งเกิดจากการขาดสารที่ช่วยในการสร้างลิ่มเลือดในตับ ดังนั้น เมื่อมีบาดแผลเกิดขึ้นที่ใดก็ตามเลือดจะไหลออกมาไม่หยุด หรือโรคทาลัสซีเมีย (Thalassemia) คือโรคโลหิตหรือโรคซีดคุณต้องแจ้งอาการตางๆเหล่านี้ให้แพทย์ทราบทันที เพราะโอกาศที่ลูกคุณจะเป็นโรคเหล่านี้สูงกว่าคนปกติ ฉะนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนการตั้งครรภ์และอาจต้องพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุกรรมโดยเฉพาะ เพื่อตรวจสอบว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้มากน้อยเพียงใด

หากรู้สึกว่าอาจจะตั้งครรภ์ควรงดใช้ยาทุกชนิด ถ้าจำเป็นต้องใช้ยาเพราะเป็นโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกใช้ยาที่ไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์

หากเคยใช้หรือกำลังใช้ยาคุมกำเนิดคุณควรหยุดใช้ยาคุมกำเนิดทันทีและให้เวลาธรรมชาติของร่างกายคุณกลับคืนสู่สภาพปกติ โดยควรรอให้มีประจำเดือนอย่างน้อย 3 วันก่อนการตั้งครรภ์โดยให้สามีคุณใช้ภุงยางอนามัยระหว่างนั้น

หากคิดจะตั้งครรภ์ คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบถ้วนและกินผักสด ผลไม้สดให้ติดเป็นนิสัยเพื่อจะได้มีโอกาสตั้งครรภ์และมีบุตรที่แข็งแรง สุขภาพดี
เมื่อคุณผ่านการแต่งงานหรือมีครอบครัวใหม่ และตั้งหลักฐานของชีวิตมั่นคงได้แล้วก็มักอยากมีลูกไว้สืบทอดเชยชม การวางแผนเพื่อเตรียมตัวที่จะให้กำเนิดลูกน้อยนับเป็็นเรื่องสำคัญที่คุณทั้งสองสามารถทำได้ นอกจากจะทำให้คุณมีโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์แล้ว คุณยังสามารถมีโอกาสได้ลูกน้อยที่สมบูรณ์และเป็นปกติที่สุดอีกด้วย



การเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนและจะให้ดีที่สุดควรปรึกษาสูติแพทย์ก่อนวางแผนตั้งครรภ์ เพื่อตรวจสอบความพร้อมและตรวจหาโรคที่อาจมีผลต่อสูกหรือแม่ เผื่อว่าหาดพบสิ่งผิดปกติจะได้ตรวจรักษาและป้องกันไว้ก่อน รวมถึงการตรวจหาน้ำหนักตัวที่พอเหมาะซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงความสมบูรณ์จองผู้เป็นแม่

การตั้งครรภ์ที่ดีควรมีการวางแผนเพื่อเตรียมความพร้อมและคามปลอดภัยในกาตั้งครรภ์ เพราะในบางครั้งการตั้งครรภ์อาจมีโอกาสเกิดภาวะโรคแทรกซ้อนได้ หรือหากปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดอันตรายต่อตัวคุณแม่และลูกในท้องได้

สำหรับเรื่องการเตรียมตัวเป็นพ่อแม่ที่ดีสำหรับลูกวัยแรกเริ่มนั้น ก่อนอื่นคุณต้องมีความพร้อมทั้งกาย ใจ และสังคม "พร้อม" ในที่นี้หมายถึง

ความพร้อมทางร่างกาย ก็คือ ผู้เป็นแม่ควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี มีสุขภาพแข็งแรง ทั้งกายและใจ ไม่เป็นโรค ที่สามารถถ่ายทอดไปถึงลูดได้ โดยช่วงอายุที่เหหมาะสมของหญิงที่ตั้งครรภ์คือผู้ที่อายุระหว่าง 20-35 ปี ส่วนการวางแผนสำหรับการมีลูกคนต่อไปนั้น ควรจะห่างกันอย่างน้อย 2 ปี เพื่อสุขภาพทั้งของแม่และลูกซึ่งทั้งพ่อและแม่จะได้มีเวลาเลี้ยงดูลูกแต่ละคนอย่างเต็มที่เต็มกำลังนั่นเอง

ความพร้อมทางจิตใจ หมายถึง คุณและสามีมีความต้องการที่จะมีลูกจริงๆ และตั้งใจเลี้ยงดูเขา ด้วยความรักเอาใจใส่ อดทนและเสียสละ ทั้งนี้คุณจึงควรมีความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กพอสมควรเพื่อที่จะเข้าใจธรรมชาติของเด็ก สามารถแก้ปัญหาพื้นฐานได้ และไม่เครียดกับการเลี้ยงดูลูกจนเกินไป

ความพร้อมทางสังคม หมายถึง สามี-ภรรยา ควรจะอยู่ในสถานภาพที่มีเวลาและมีรายได้พอเพียง ในการที่จะดูแลและรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิตที่เพิ่มขึ้นมาในครอบครัว

การเตรียมความพร้อมก่อนมีลูก

เมื่อคุณผ่านการแต่งงานหรือมีครอบครัวใหม่ และตั้งหลักฐานของชีวิตมั่นคงได้แล้วก็มักอยากมีลูกไว้สืบทอดเชยชม การวางแผนเพื่อเตรียมตัวที่จะให้กำเนิดลูกน้อยนับเป็็นเรื่องสำคัญที่คุณทั้งสองสามารถทำได้ นอกจากจะทำให้คุณมีโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์แล้ว คุณยังสามารถมีโอกาสได้ลูกน้อยที่สมบูรณ์และเป็นปกติที่สุดอีกด้วย



การเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนและจะให้ดีที่สุดควรปรึกษาสูติแพทย์ก่อนวางแผนตั้งครรภ์ เพื่อตรวจสอบความพร้อมและตรวจหาโรคที่อาจมีผลต่อสูกหรือแม่ เผื่อว่าหาดพบสิ่งผิดปกติจะได้ตรวจรักษาและป้องกันไว้ก่อน รวมถึงการตรวจหาน้ำหนักตัวที่พอเหมาะซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงความสมบูรณ์จองผู้เป็นแม่

การตั้งครรภ์ที่ดีควรมีการวางแผนเพื่อเตรียมความพร้อมและคามปลอดภัยในกาตั้งครรภ์ เพราะในบางครั้งการตั้งครรภ์อาจมีโอกาสเกิดภาวะโรคแทรกซ้อนได้ หรือหากปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดอันตรายต่อตัวคุณแม่และลูกในท้องได้

สำหรับเรื่องการเตรียมตัวเป็นพ่อแม่ที่ดีสำหรับลูกวัยแรกเริ่มนั้น ก่อนอื่นคุณต้องมีความพร้อมทั้งกาย ใจ และสังคม "พร้อม" ในที่นี้หมายถึง

ความพร้อมทางร่างกาย ก็คือ ผู้เป็นแม่ควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี มีสุขภาพแข็งแรง ทั้งกายและใจ ไม่เป็นโรค ที่สามารถถ่ายทอดไปถึงลูดได้ โดยช่วงอายุที่เหหมาะสมของหญิงที่ตั้งครรภ์คือผู้ที่อายุระหว่าง 20-35 ปี ส่วนการวางแผนสำหรับการมีลูกคนต่อไปนั้น ควรจะห่างกันอย่างน้อย 2 ปี เพื่อสุขภาพทั้งของแม่และลูกซึ่งทั้งพ่อและแม่จะได้มีเวลาเลี้ยงดูลูกแต่ละคนอย่างเต็มที่เต็มกำลังนั่นเอง

ความพร้อมทางจิตใจ หมายถึง คุณและสามีมีความต้องการที่จะมีลูกจริงๆ และตั้งใจเลี้ยงดูเขา ด้วยความรักเอาใจใส่ อดทนและเสียสละ ทั้งนี้คุณจึงควรมีความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กพอสมควรเพื่อที่จะเข้าใจธรรมชาติของเด็ก สามารถแก้ปัญหาพื้นฐานได้ และไม่เครียดกับการเลี้ยงดูลูกจนเกินไป

ความพร้อมทางสังคม หมายถึง สามี-ภรรยา ควรจะอยู่ในสถานภาพที่มีเวลาและมีรายได้พอเพียง ในการที่จะดูแลและรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิตที่เพิ่มขึ้นมาในครอบครัว